เผลอไปเปิดโหมดที่ไม่มีความเย็น

        โหมดในรีโมตเครื่องปรับอากาศจะมีหลัก ๆ ทั้งหมด 4 โหมด ได้แก่ โหมด Cool Fan Dry และ Auto ซึ่งแต่ละโหมดก็จะทำหน้าที่แตกต่างกันออกไป โดยปกติแล้วโหมดที่ใช้งานบ่อยที่สุดจะเป็นโหมด Cool เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอากาศร้อน หากคุณเผลอไปเปิดใช้โหมด Fan หรือโหมด Dry ทั้งสองโหมดนี้จะไม่มีการทำความเย็นเพราะโหมด Fan เป็นโหมดพัดลมจะปล่อยเพียงลมธรรมดาออกมา ส่วนโหมด Dry จะเป็นโหมดที่เอาไว้ใช้ลดความชื้นในห้อง ลมที่ออกมาก็จะเป็นลมที่ไม่มีความเย็นเช่นกัน ส่วนโหมด Auto ก็จะเป็นโหมดที่เครื่องปรับอากาศจะเลือกโหมดให้กับเราแบบอัตโนมัติอีกที บางครั้งก็อาจจะเลือกให้อยู่โหมด Fan หรือโหมด Dry ก็ได้ตามความเหมาะสมที่แอร์คิดคำนวณให้

        ดังนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกว่าเครื่องปรับอากาศไม่มีความเย็นออกมา อันดับแรกให้คุณดูที่รีโมตก่อนอย่าพึ่งตื่นตระหนกว่าแอร์เสีย สังเกตสัญลักษณ์บนรีโมตว่าอยู่ในโหมด Cool หรือเป็นสัญลักษณ์รูปเกล็ดหิมะอยู่หรือเปล่า ถ้าไม่ได้อยู่ในโหมด Cool ให้ปรับโหมดเป็นโหมด Cool แอร์ของคุณก็จะกลับมาเย็นอีกครั้ง

แอร์อุดตันจากการไม่ได้ล้างแอร์

        การดูแลทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย เพราะถ้าหากคุณไม่ได้ดูแลทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศให้ดี เครื่องปรับอากาศอาจเกิดการอุดตันได้ ซึ่งสิ่งปรกต่าง ๆ ที่สะสมอยู่ในเครื่องปรับอากาศไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง เชื้อรา แบคทีเรีย จะไปจับตัวกันทำให้กีดขวางทางออกของลมแอร์ได้ ซึ่งอันดับแรกที่จะอุดตันเร็วก็คงหนีไม่พ้นแผ่นกรองอากาศ หรือฟิลเตอร์กรองอากาศ ซึ่งแผ่นกรองอากาศควรจะต้องถอดมาล้างเป็นประจำทุกอาทิตย์ นอกจากจะทำให้ไม่แอร์ไม่อุดตันแล้ว ยังดีต่อระบบหายใจของคุณด้วย เพราะถ้าไม่ได้ถอดแผ่นกรองอากาศมาล้างบ่อย ๆ ฝุ่นก็จะไปจับตัวทำให้ลมที่ปล่อยออกมามีฝุ่นผสมอยู่ด้วย ถ้าหากถอดแผ่นฟิลเตอร์มาล้างแล้ว แอร์ก็ยังไม่เย็นเหมือนเดิม แนะนำให้คุณเรียกช่างเข้ามาทำการล้างใหญ่ เพราะอาจเกิดจากการที่แผงคอยล์อุดตัน  ควรเรียกช่างเข้ามาล้างแอร์ทุก ๆ 6 เดือน

แอร์ไม่เย็นเพราะติดผิดขนาด

        ขนาด BTU ของแอร์เป็นเรื่องสำคัญมาก หากคุณเลือกเครื่องปรับอากาศที่มีขนาด BTU เล็กเกินไป ไม่สมดุลกับขนาดของห้อง ก็จะทำให้เครื่องปรับอากาศทำความเย็นได้ไม่ทั่วถึง ส่งผลให้แอร์ไม่เย็นได้ หรือบางคนอาจคิดว่าติดเครื่องปรับอากาศไม่ต้องไปติดใหญ่มากจะได้ไม่เปลืองไฟ ซึ่งเป็นความคิดที่เพราะจะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้น ดังนั้นก่อนการติดเครื่องปรับอากาศควรคำนวณขนาดของ BTU ให้เหมาะสมกับขนาดของห้อง และอย่าลืมแจ้งจำนวนคนที่ใช้ห้องนั้นด้วย ว่าห้องที่คุณต้องการติดแอร์เป็นห้องที่มีจำนวนคนใช้งานเยอะหรือไม่ เพราะถ้าหากเป็นห้องที่มีคนใช้งานเยอะก็ต้องเพิ่มขนาด BTU ขึ้นมาอีก

ในห้องมีความร้อนมากเกินไป

ปัจจัยที่ทำให้แอร์ไม่เย็น นอกจากจะเกิดปัญหาที่ตัวเครื่องปรับอากาศแล้ว ปัจจัยภายนอกหรือสภาพแวดล้อมของห้อง ก็ยังส่งผลให้แอร์ไม่เย็นได้ด้วย นั่นก็คือความร้อนในห้อง ซึ่งความร้อนในห้องสามารถเกิดได้จาก 2 อย่างนี้

ความร้อนที่เกิดจากแสงแดด หากคุณติดเครื่องปรับอากาศในห้องที่มีแดดส่อง ความร้อนจากแสงแดดที่ส่องเข้ามาจะส่งผลให้ในห้องของคุณร้อน และทำให้แอร์ไม่เย็นจนต้องเร่งอุณหภูมิขึ้น ทางที่ดีควรติดม่านเพื่อช่วยบังแสงอาทิตย์ไม่ให้เข้ามาในห้องมาก จนทำให้อุณหภูมิของห้องสูงจนเกินไป

ความร้อนที่เกิดจากเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิดก็ปล่อยพลังงานความร้อนออกมาทำให้ห้องร้อนได้เช่นกัน เช่น ตู้เย็น  กาต้มน้ำ หม้อทอด แนะนำให้คุณปิดการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น เพื่อที่แอร์จะได้ไม่ต้องเร่งทำความเย็นหนัก

มีปัญหาเรื่องของน้ำยาแอร์

หากคุณได้แก้ไขเครื่องปรับอากาศในเบื้องต้นมาบ้างแล้ว แอร์ก็ยังไม่เย็นอยู่ดี แสดงว่าเครื่องปรับอากาศจะมีปัญหาตรงที่น้ำยาแอร์ได้ ซึ่งอาจเกิดจากน้ำยาแอร์รั่ว น้ำยาแอร์เป็นสารทำความเย็นที่ทำให้เครื่องปรับอากาศของปล่อยความเย็นออกมา หากน้ำยาแอร์เกิดรั่วจนหมด ลมแอร์ที่ออกมาก็จะไม่มีความเย็น มีเพียงลมธรรมดาที่ถูกปล่อยออกมา ซึ่งหากเกิดจากปัญหาตรงน้ำยาแอร์ คุณจะไม่สามารถทำการแก้ไขได้ด้วยตัวเอง จะต้องเรียกช่างเข้ามาตรวจสอบสาเหตุ และทำการแก้ไขให้

ซึ่งปัญหาแอร์ไม่เย็นถ้าไม่ใช่การเปิดผิดโหมด ไม่ได้หมั่นนำแผ่นกรองอากาศมาล้าง กับความร้อนในห้องที่เป็นสาเหตุที่แก้ไขได้เองเบื้องต้น ทางที่ดีอย่าไปเดาเองควรปรึกษาช่างแอร์โดยตรงจะดีกว่า เพราะจะทำการแก้ไขได้ตรงจุด และควรเลือกผู้เชี่ยวชาญที่ไว้ใจได้ที่แอร์ช่างอ๋อ ร้านแอร์ขอนแก่น หากแอร์ของคุณกำลังประสบปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะแอร์ไม่เย็น แอร์มีเสียงดัง น้ำแอร์หยด ฯลฯ เราก็พร้อมที่จะเข้าไปเซอร์วิสคุณ ด้วยการบริการที่มีมาตรฐานโดยช่างผู้มากประสบการณ์ พร้อมให้บริการตั้งแต่งานติดตั้ง งานซ่อม ไปจนถึงงานล้างแอร์อย่างครบวงจร